เงินกู้พิเศษ
วัตถุประสงค์ในการให้กู้ (1) เพื่อการเคหะสงเคราะห์
(ก) เพื่อก่อสร้างบ้านในที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรสหรือเช่าซื้อในที่ดินของตนเองหรือคู่สมรส (ข) เพื่อซื้อบ้านหรืออาคารพร้อมที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง (ค) เพื่อซื้อห้องชุดเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง (ง) เพื่อซื้อที่ดินปลูกสร้างบ้านหรือรอการปลูกสร้างบ้าน (จ) เพื่อซ่อมแซม ต่อเติม หรือปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยของตนเองหรือครอบครัว (ฉ) เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินหรือที่ดินพร้อมบ้านของตนเองหรือครอบครัว
(2) เพื่อการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพเสริมของตนเอง หรือ คู่สมรสซึ่งคณะกรรมการ ดำเนินการ เห็นสมควรและพอใจว่าจะเกิดประโยชน์ให้แก่สมาชิกผู้กู้
(3) เพื่อการซื้อยานพาหนะ เพื่อซื้อยานพาหนะของตนเองหรือของคู่สมรส ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควรและ พอใจว่าเป็นสิ่งจำเป็นและก่อประโยชน์ให้แก่สมาชิกผู้กู้
คุณสมบัติของผู้กู้ (1) ต้องเป็นสมาชิกติดต่อกันมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี (2) มีทุนเรือนหุ้น เงินฝากในสหกรณ์นี้ หรือหลักทรัพย์อื่นๆ เป็นหลักประกัน (3) ต้องมีรายได้เพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยได้ตามกำหนด (4) ผู้กู้ที่มีเงินได้รายเดือนเมื่อหักชำระหนี้ต่างๆแล้ว จะต้องมีเงินได้รายเดือนเหลือไม่น้อยกว่า ร้อยละ 15 สำหรับสมาชิกผู้สมัครเป็นสมาชิกใหม่ นับถัดจากวันประกาศนี้ ต้องมีเงินได้รายเดือนเหลือไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 (5) สมาชิกที่มีคู่สมรสเป็นสมาชิก อาจขอกู้เงินพิเศษโดยให้คู่สมรสเป็นผู้กู้ร่วมได้
หลักฐานประกอบคำขอกู้ (1) สำเนาบัตรประจำตัวผู้กู้และคู่สมรส (2) สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้และคู่สมรส (3) ใบเสร็จรับเงินของสหกรณ์เดือนสุดท้าย (4) ใบรับรองเงินได้รายเดือนผู้กู้และคู่สมรสรวมทั้งรายได้พิเศษ ให้มีเอกสารการส่งชำระภาษีเงินได้ รายเดือนประกอบด้วย หลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขอกู้ตามแบบคำขอกู้ที่สหกรณ์กำหนด
4. จำนวนเงินกู้ 4.1 จำนวนเงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะสงเคราะห์ ซึ่งให้แก่สมาชิกผู้กู้คนหนึ่ง ๆ นั้นย่อมสุดแต่คณะกรรมการดำเนินการพิจารณาเห็นสมควร โดยคำนึงถึงลักษณะของที่อยู่อาศัยตามควรแก่ฐานะ และความสามารถชำระหนี้สินของสมาชิกนั้น แต่ไม่เกิน 5,000,000.- บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) และเงินกู้พิเศษเพื่อซ่อมแซมบ้านไม่เกิน 1,500,000.- บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน) ผ่อนชำระคืนภายในระยะเวลาไม่เกิน 360 งวดเดือน หรือผ่อนชำระได้ถึงอายุ 75 ปี แล้วแต่เกณฑ์ใดจะถึงก่อน 4.2 จำนวนเงินกู้พิเศษ เพื่อการลงทุนประกอบอาชีพ ซึ่งให้แก่ผู้กู้คนหนึ่ง ๆ นั้นย่อมสุดแต่คณะกรรมการดำเนินการพิจารณากำหนดตามที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงความต้องการเงินกู้แท้จริงตามแผนงานประกอบอาชีพ และความสามารถชำระหนี้ของสมาชิกนั้น แต่ไม่เกิน 1,500,000.- บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน) ผ่อนชำระคืนภายในระยะเวลาไม่เกิน 180 งวดเดือน หรือผ่อนชำระได้ถึงอายุ 75 ปี แล้วแต่เกณฑ์ใดจะถึงก่อน 4.3 จำนวนเงินกู้พิเศษเพื่อซื้อยานพาหนะ ซึ่งให้แก่ผู้กู้คนหนึ่ง ๆ นั้น ย่อมสุดแต่คณะกรรมการดำเนินการพิจารณากำหนดตามที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงความต้องการเงินกู้จริง และความสามารถชำระหนี้ของสมาชิกนั้น แต่ไม่เกิน 1,200,000.- บาท (หนึ่งล้านสองแสนบาทถ้วน) ผ่อนชำระคืนภายในระยะเวลาไม่เกิน 96 งวดเดือน หรือผ่อนชำระได้ถึงอายุ 75 ปี แล้วแต่เกณฑ์ใดจะถึงก่อน 5. การส่งคืนเงินกู้ คณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณากำหนดให้ผู้กู้เงินพิเศษนี้ส่งคืนเงินกู้เป็นจำนวนเท่าใดก็สุดแต่จะเห็นเป็นการสมควรแต่ไม่เกินการกู้เงินแต่ละประเภทในข้อ 4 โดยนับตั้งแต่เดือนที่คิดดอกเบี้ยเดือนแรก ทั้งนี้ไม่มีการผ่อนเวลาโดยอัตราส่งคืนเงินกู้พิเศษให้รวมต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นรายเดือนเท่ากัน
6. หลักประกันสำหรับเงินกู้ มีดังต่อไปนี้ (1) มีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดินอันปลอดจากภาระจำนองเจ้าหนี้รายอื่น จำนองเป็นประกันเงินกู้แต่ไม่เกินร้อยละ 80 แห่งค่าของอสังหาริมทรัพย์นั้น
(2) มีอาคารหรือโรงเรือนอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือครอบครัวสามารถนำมาจำนองเป็นประกันได้ แต่ไม่เกินร้อยละ 70 แห่งค่าของหลักทรัพย์นั้น และต้องทำประกันภัยเท่า กับจำนวนเงินกู้โดยระบุให้สหกรณ์เป็นผู้รับประโยชน์
(3) กรณี ซื้อบ้านใหม่พร้อมที่ดินหรืออาคารใหม่ จากโครงการบ้านจัดสรรให้ประเมินราคาไม่เกินสัญญาซื้อขายจริง และต้องทำประกันเท่ากับจำนวนเงินกู้ โดยระบุให้สหกรณ์เป็น ผู้รับประโยชน์
(4) มีหลักทรัพย์ที่เป็นเงินฝากในสหกรณ์นี้ ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการพิจารณาเห็นสมควรให้จำนำเป็นหลักประกันเงินกู้ แต่ไม่เกินร้อยละ 90 แห่งมูลค่าของหลักทรัพย์นั้น (5) มีทุนเรือนหุ้น เป็นหลักประกันได้แต่ไม่เกินร้อยละ 90 ของมูลค่าหุ้น หลักประกันทั้ง 5 ประเภท สามารถทำมาใช้ร่วมกันได้ ทั้งนี้ สมาชิกกู้เงินพิเศษต้องทำประกันชีวิตกลุ่มตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร โดยให้สหกรณ์เป็นผู้รับประโยชน์
7. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ สมาชิกเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ของอสังหาริมทรัพย์ โดยสมาชิกผู้กู้ต้องขำระค่าใช้จ่ายจำนวนร้อยละ 0.2 ของวงเงินกู้นั้น แต่ไม่น้อยกว่า 3,000 บาท กรณีที่สมาชิกยกเลิกการกู้พิเศษจะต้องรับภาระค่าใช้จ่าย จำนวน 3,000 บาท 8. ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการดำเนินการเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด 9. ให้ประธานกรรมการ เป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
|